การกล่าวอ้างถึงพระอรหันต์ชื่อนั้นชื่อนี้ ยังมีบุคคลบางคน ไม่สู้จะเชื่อเรื่องนี้นัก เพราะเป็นคนถือดีพอสมควร คนถือดีนี่อันตราย เพราะเป็นอารมณ์หลง ซึ่งจะให้หมดหลงกันจริงๆ (หลงละเอียด) ก็ต้องเป็นพระอรหันต์เท่านั้น ดังนั้น จงอย่าไปคิดตำหนิบุคคลบางคนเหล่านั้น เพราะกรรมจะเข้าตัวเราเอง การตำหนิผู้อื่น เป็นการเบียดเบียนจิตเราก่อน ไฟปฏิฆะเกิดที่จิตเราก่อนเสมอ เป็นการขาดพรหมวิหาร ๔ สองข้อแรก คือ เมตตากับกรุณา บุคคลผู้นั้นเขาไม่รู้อารมณ์จิตของตนเอง และบอกได้เลยว่า ศีลเขาก็ยังไม่เต็มไม่บริสุทธิ์ เพราะบุคคลใดที่มีพรหมวิหาร ๔ ครบ บุคคลนั้นไม่มีขาด เอาเป็นว่าจงอย่าไปสนใจจริยาของผู้อื่น กรรมใครกรรมมัน เสียเวลาปฏิบัติธรรมไปโดยใช่เหตุ
อีกจุดหนึ่งที่ทรงตรัสว่า การซ่อมปูชนียสถานในเขตพระพุทธศาสนา พวกเราทุกคนที่บริจาคทรัพย์อันเป็นโลกีย ์ซึ่งเอาไปไม่ได้ มาเป็น โลกุตรทรัพย์ ซึ่งเอาไปได้ ใครทำใครได้ ทุกคนล้วนมีเจตนาทำเพื่อพระนิพพานทั้งสิ้น ตถาคตสงเสริมและโมทนาจุดนี้ เพราะเป็นการเสียสละกำลังกาย-กำลังทรัพย์ด้วยกำลังใจอันพร้อมเพื่อพระนิพพาน
ที่ทรงตรัสก็เพราะยังมีบุคคลบางคน ไม่สู้จะเชื่อเรื่องนี้นัก จึงรื้อปูชนียสถานเก่าออก มุ่งแต่จะสร้างของใหม่อยู่เรื่อย เพราะความถือดี มีมานะกิเลส ใครจักเตือนก็ไม่ได้ ทรงเมตตาตรัสเรื่องนี้ก็เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้บริจาคเงินซ่อมโบสถ์-วิหารเก่า-เจดีย์เก่า ได้บุญเต็มและมีกำลังใจเต็มด้วย
(คำสอน สมเด็จองค์ปฐม)
(พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน ผู้รวบรวม) cr facebook : Opas Ninyawee
|